2008-08-24

ยำก้านคะน้า


ส่วนผสม

คะน้า 3-4 ก้าน
หมูสับ 1/2 ขีด
กุ้งสด 5-6 ตัว
หอมแดงซอย 4-5 หัว
พริกขี้หนู 4-5 เม็ด
กระเทียม 3-4 กลีบ
ต้นหอมซอย 1 ต้น
ผักชีสำหรับโรยหน้า
ผักกาดหอมสำหรับรองจาน
น้ำตาล น้ำปลา มะนาว ตามชอบ
น้ำมันพืชสำหรับเจียวหอม

วิธีทำ
1. เลือกเอาคะน้าต้นอวบๆ ใหญ่ๆ มาล้างให้สะอาด ตัดส่วนที่เป็นใบออกเหลือแต่ก้าน แล้วปอกเปลือกเขียวๆ ตรงก้านออกให้เหลือแต่เนื้อใน แล้วหั่นเป็นท่อนกลมๆ เสร็จแล้วนำไปลวกพอให้สุก ลวกเสร็จก็ให้แช่ในน้ำเย็นไว้ คะน้าจะได้กรอบอร่อย

2. ล้างกุ้งให้สะอาดแล้วนำไปลวกให้สุก ส่วนหมูสับนำไปรวนให้สุกเช่นกัน แล้วพักไว้ก่อน
3. ตำพริกกับกระเทียมให้เข้ากันแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา มะนาวให้ได้รสถูกใจ
4. เอาเครื่องเคราทุกอย่างคือก้านคะน้า ต้นหอมซอย หอมแดงซอย (แบ่งหอมแดงไว้ครึ่งหนึ่งก่อน) ตามด้วยกุ้ง และเนื้อหมูที่เตรียมไว้ ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. และเพื่อความอร่อยที่มากขึ้น เอาหอมแดงที่แบ่งเอาไว้ครึ่งหนึ่งเมื่อกี้นี้ลงไปเจียวกับน้ำมันให้หอมฟุ้ง แล้วนำมาโรยหน้าบนยำก้านคะน้าที่ตักมาไว้ใส่จานโดยมีผักกาดหอมรอง เอาผักชีโรยหน้าสักนิดก็เป็นอันได้ "ยำก้านคะน้า"

แปะก๊วยเห็ดหิมะ


ส่วนผสม

เมล็ดแปะก๊วย 10 เมล็ด (หรือจะมากกว่านี้ก็ได้ตามแต่จะชอบใส่)
เห็ดหิมะ (เห็ดหูหนูขาว) 20 กรัม (หรือจะมากกว่านี้ก็ได้ตามแต่จะชอบใส่)
น้ำกะทิ ½ ถ้วย
นมสด ¼ ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
น้ำเชื่อม ¼ ถ้วย

วิธีทำ

1. นำเมล็ดแปะก๊วยมาต้มในน้ำร้อนให้สุก แล้วพักทิ้งไว้ให้เย็น
2. นำเห็ดหิมะ (เห็ดหูหนูขาว) มาทำความสะอาดให้เรียบร้อย แช่ให้เห็ดหิมะขยายตัวและนำมาต้มให้สุก และพักทิ้งไว้ให้เย็นเช่นเดียวกันกับเมล็ดแปะก๊วย
3. จากนั้นเตรียมทำน้ำกะทิสดเกล็ดหิมะ ด้วยการนำน้ำกะทิ นมสด และน้ำตาลทรายมาผสมให้เข้ากันต้มจนสุก และพักทิ้งไว้ให้เย็น หลังจากนั้นให้นำไปแช่เย็นจนได้น้ำกะทิสดเกล็ดหิมะ

เวลาจะกินให้นำเมล็ดแปะก๊วยและเห็ดหิมะที่เตรียมไว้ใส่ถ้วย แล้วก็เติมน้ำเชื่อมและน้ำกะทิสดเกล็ดหิมะที่แช่เย็นไว้ลงไป เพียงเท่านี้ก็จะได้ “แปะก๊วยเห็ดหิมะ” ที่กินแล้วรู้สึกหวานเย็นชื่นใจจริงๆ

บัวลอยงาดำน้ำขิง

ส่วนผสม

งาดำ 3/4 ถ้วย
ขิงแก่หั่นหยาบ 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายขาว 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
หัวกะทิ 1/3 ถ้วย
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
น้ำร้อนจัด 1/2 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

คั่วงาดำด้วยไฟอ่อนจนสุก พักไว้ให้เย็นสนิทจึงนำไปป่นให้ละเอียด(ใช้ครกหรือเครื่องปั่นก็ได้)พักไว้ นำขิงหั่นหยาบไปปั่นรวมกับน้ำจนเนื้อละเอียด กรองแยกเนื้อและน้ำไว้

น้ำเนื้อขิงที่กรองน้ำออกแล้วผัดรวมกับน้ำตาลทรายแดงและขาว เกลือป่นและหัวกะทิ ใช้ไฟปานกลางนานประมาณ 5 นาทีจนเริ่มแห้งและเหนียวขึ้น จึงเติมงาดำที่ป่นแล้วลงผสมให้เข้ากัน เมื่อแห้งดีแล้วตักขึ้นพักไว้

ผสมแป้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้าให้เข้ากัน ค่อยๆเติมน้ำร้อนแล้วใช้ช้อนคลุกให้เข้ากัน จากนั้นจึงค่อยใช้มือนวดแป้งจนเนื้อเนียนไม่ติดมือ

ตักไส้ขิงงาดำประมาณ 2 ช้อนชาปั้นให้เป็นก้อนกลม และปั้นแป้งให้ใหญ่กว่าไส้เล็กน้อยใช้มือกดให้แผ่เป็นแผ่นบาง พยายามให้บริเวณขอบบางกว่าตรงกลาง นำไส้มาวางตรงกลาง ห่อรวบแผ่นแป้งปิดให้มิด นำไปต้มในน้ำเดือดจนกระทั่งสุกลอยขึ้นมา ก่อนเสิร์ฟให้ราดหน้าด้วยซอสขิงอบเชยร้อนๆ

ส่วนผสมซอสขิงอบเชย

น้ำขิงที่กรองไว้ 1/4 ถ้วย
กะทิ 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
แท่งอบเชย 1 แท่ง
แป้งข้าวโพดละลายน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ใส่น้ำขิง กะทิ น้ำตาลทรายแดง แท่งอบเชยหักเป็นท่อนลงในกระทะ คนจนน้ำตาลละลายหมด เคี่ยวต่อประมาณ 2-3 นาทีให้เดือด เติมแป้งข้าวโพดคนเร็วๆจนซอสข้นเหนียวขึ้น

วุ้นน้ำมะพร้าว


ส่วนผสม

มะพร้าวน้ำหอม 2 ลูก
ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ (สามารถเพิ่มมากกว่านั้นหากชอบรสหวาน)

1. เริ่มจากเฉาะมะพร้าวทั้งสองลูก ได้น้ำมะพร้าวออกมาแล้วก็ใส่ผงวุ้นลงไป คนจนผงวุ้นพอละลาย (หากอยากให้วุ้นมีสันสวยงามก็อาจจะใส่น้ำหวานสีต่างๆ ผสมลงไปด้วย)
2. นำน้ำมะพร้าวขึ้นตั้งไฟจนเดือด คอยคนอย่าให้วุ้นนอนก้น พอละลายจนเข้ากันดีแล้วก็ยกลง แล้วเติมน้ำตาลทรายให้ความหวานกันตามใจชอบ ส่วนเนื้อมะพร้าวก็อย่าปล่อยทิ้งไว้ ให้ขูดออกมาใส่รวมกับวุ้นน้ำมะพร้าวที่เราต้มเอาไว้แล้ว ยิ่งถ้าเป็นเนื้อมะพร้าวอ่อน ก็จะยิ่งกินอร่อย

หลังต้มวุ้นน้ำมะพร้าวมาเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้ให้หายร้อนสักพักหนึ่ง โดยก่อนที่วุ้นจะเริ่มแข็งตัว ให้นำไปเทใส่ในลูกมะพร้าว(หรือในภาชนะอย่างอื่น) พร้อมกับใส่เนื้อมะพร้าวที่ขูดเอาไว้ไปพร้อมๆกัน จากนั้นจึงนำไปแช่ตู้เย็นทั้งลูกให้เย็นฉ่ำ ถือเป็นอันจบขั้นตอน ซึ่งหากใครรู้สึกร้อน อยากหาอะไรกินเล่นๆ หวานเย็นดับร้อน วุ้นน้ำมะพร้าวถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำกินยามว่างได้อย่างไม่ยากเย็น

ข้าวเม่าคลุก


ส่วนผสม

ข้าวเม่าข้าวใหม่ 4 ถ้วยตวง

น้ำเดือด 1/2 ถ้วยตวง

เกลือ 1 ช้อนชา

ใบเตยหอม 5 ใบ

น้ำตาลทรายเม็ดเล็ก 1 ถ้วยตวง

กล้วยไข่งอมๆ 1 หวี

มะพร้าวทึนทึก 1 ผล


วิธีทำ

1. เลือกซื้อข้าวเม่าใหม่ๆ จะมีกลิ่นหอม เลือกกากอกให้หมด แล้วร่อนในตะแกรงห่างๆ เพื่อข้าวเม่าที่เป็นผงๆ หลุดออก ใส่ชามอ่างไว้
2. ขูดมะพร้าวทึนทึกให้หมดผลประมาณ 1 1/2 ถ้วยตวง นำไปนึ่งบนน้ำเดือด
3. ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือ 1/2 ช้อนชา ใส่ใบเตย ต้มให้มีกลิ่นหอม จึงค่อยๆ เทใส่ในชามอ่างที่มีข้าวเม่า ค่อยๆ เอามือคลุกให้ทั่ว เอามะพร้าวที่นึ่งสุกแล้วผสมลงด้วยประมาณ 1 ถ้วยตวง ที่เหลือไว้โรยหน้า พอเคล้าแล้วใช้จานปิดเพื่อให้ข้าวเม่าระอุนานประมาณ 15 นาที
4. เวลารับประทาน เอาเกลือ 1/2 ช้อนชา คลุกกับมะพร้าว โรยข้าวเม่า โรยน้ำตาลทราย รับประทานกับกล้วยไข่สุกงอม หรือกล้วยหอม

ตะโก้แห้ว


ส่วนผสม

แป้งถั่ว ( 200 กรัม) 2 ขีด

น้ำตาลทรายขาว 1 กิโลกรัม

มะพร้าวขูดขาว 1 กิโลกรัม

แป้งข้าวเจ้า 1 ขีด ( 100 กรัม)

เกลือ 2 ช้อนชา

แห้วปอกเหลือกหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 2 ถ้วยตวง

ใบเตยหอม 1 กำใหญ่


วิธีทำ

1. เอาแป้งถั่วละลายน้ำ (ถ้าชอบกลิ่นหอม ใช้น้ำลอยดอกมะลิก็ได้) ละลายโดยใช้น้ำประมาณ 4 เท่าของแป้งถั่ว หรือจะสังเกตจากแป้งติดหลังมือ แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
2. ระหว่างนั้นเอากระทะตั้งไฟ ใส่น้ำนิดหน่อย พอน้ำร้อนเอาแป้งที่ผสมไว้เทลง ใช้ไม้พายค่อยๆ คนเรื่อยๆ อย่าหยุด โดยใช้ไม้พายผัดไปข้างหน้า กลับไปกลับมา พอแป้งเริ่มใส ประมาณ 30 นาที จึงใส่น้ำตาล
3. กวนต่อไปจนใสและแห้งลง มีลักษณะข้น ( ต้องใช้ไฟอ่อนในการกวน) จึงใส่แห้วที่หั่นเรียบร้อยแล้ว พอแป้งสุกก็ยกลง ตักใส่กระทงใบเตยประมาณครึ่งกระทงจนหมดแป้ง
4. เอามะพร้าวขูดขาวมาคั้นโดยไม่ต้องใส่น้ำ และคั้นน้ำครั้งที่ 2 อีกครั้งให้ได้กะทิประมาณ 4 ถ้วยตวง
5. ผสมแป้งข้าวเจ้าและเกลือ คนให้ละลาย นำไปตั้งไฟอ่อนจนข้นและเดือด จึงยกลง ใช้ช้อนตักใส่บนแป้งถั่วที่กวนไว้เรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้ให้เย็น ขนมจะแข็งตัว

การกวนตะโก้
ใช้ไฟอ่อน อย่าใจร้อน

การทำกระทงใบเตย
ล้างใบเตยหอมให้สะอาดเช็ดให้แห้งตัดประมาณ 5 นิ้ว แต่ละนิ้วใช้มีดตัดครึ่งใบเท่านั้น แล้วซ้อนกันเป็นรูปกระทงสี่เหลี่ยม การซ้อนต้องเอาด้านล่างที่ตัดไว้ ไขว้กัน วนเรื่อยไปจนเป็นรูปกระทง แล้วใช้ด้ายเย็บ หรือใช้ไม้กลัดเล็ก ๆ กลัดใบเตยที่ซ้อนกันสี่ด้าน จะปิดตรงก้นกระทงพอดี

ข้าวต้มผัด


ส่วนผสม

ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 500 กรัม
กะทิ (มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม 2 ถ้วย
กล้วยน้ำว้าสุก (25 ชิ้น) 1 หวี
ถั่วดำต้ม 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
เกลือป่น 2 ช้อนชา
ใบตองสำหรับห่อ
ตอกสำหรับมัด


วิธีทำ

1. ผสมน้ำตาล เกลือ กะทิ ลงในกระทะทอง ตั้งไฟ จน น้ำตาลละลาย ใส่ข้าวเหนียวคนจนน้ำกะทิแห้ง ยกลง (ข้าวเหนียวจะมีลักษณะสุก ๆ ดิบ ๆ)
2. วางใบตอง 2 ชั้น ซ้อนเรียงกัน ตักข้าวเหนียวใส่ (ส่วนผสม ข้อ 1) เล็กน้อย หยิบกล้วยวาง ใส่ข้าวเหนียวให้ปิดกล้ว โรยถั่วดำ 4-5 เมล็ด ห่อให้สนิท มัดด้วยตอกห่อให้แน่น
3. นำไปนึ่งในน้ำเดือ ไฟแรง ประมาณ 30 นาที จนสุก

***วิธีการห่อ โดยฉีกใบตองกว้าง 7-8 นิ้ว นำมาวางซ้อนกันโดย สลับหัวท้าย จึงใส่ข้าวเหนียว ใส่กล้วย ใส่ข้าวเหนียวให้ปิดกล้วย โรยถั่วดำ มัดด้วยดอกให้แน่น

กระท้อนลอยแก้ว




ส่วนผสม

กระท้อนห่อ 3 ผล
น้ำ 3 ถ้วยตวง
เกลือ 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำลอยแก้วปรับปรุงใหม่
น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง
น้ำเย็นจัด 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
เหล้ารัม 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ปอกกระท้อนแล้วใช้มีด ฝานเนื้อออกเป็นแว่นเล็ก ๆ บาง ๆ
2. ใส่ลงในชามน้ำเกลือ ฝานสลับกันไปมาจนรอบลูก และลึกไปจนถึงปุยที่หุ้มเมล็ด ควรกดให้ชิ้นกระท้อนจมน้ำเกลือ เพื่อมิให้ดำ แช่ไว้ ประมาณ 30 นาที
3. เทกระท้อนที่แช่น้ำเกลือใส่กระชอนเพื่อให้สะเด็ดน้ำ ใช้มือ ช่วยบีบเบา ๆ แล้วใส่ลงในหม้อน้ำเชื่อมคนให้กระจายตัว แช่ไว้อีก 30 นาที เป็นอย่างน้อย กระท้อนที่แช่น้ำเชื่อมไว้นี้ สามารถเก็บในตู้เย็นได้หลายวัน
4. เมื่อเสิร์ฟตักใส่ถ้วยแก้ว โรยหน้าด้วยน้ำแข็งทุบ

****น้ำลอยแก้วที่ปรับปรุงนี้จะเจือจางกว่าแบบเดิม ฉะนั้นควรแช่ เย็นให้เย็นจัด ไม่ควรใส่น้ำแข็งทุบในถ้วยขนมมิฉะนั้นรสจะชืด เกินไป

2008-08-01

ข้าวต้มกุ้ง



ข้าวกล้อง
กุ้ง
กระเทียม
ขิง
รากผักชี
ผักชีหั่นฝอย
ซุปไก่ก้อนคนอร์สูตรไม่ใส่ผงชูรส
น้ำมันมะกอก น้ำมันงา พริกไทย ซีอิ๊ว สำหรับปรุงรสจ้า



1. หั่นกุ้งเป็นชิ้นพอคำ แล้วหมักด้วยน้ำมันงากับพริกไทย พักไว้
2. สับกระเทียม เอาข้าวกล้องไปซาวแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
3. เทน้ำมันมะกอกลงในกระทะเล็กน้อย
4. เอากระเทียมที่สับไว้ลงไปเจียวให้เหลืองหอม เมื่อกระเทียมเหลืองหอมได้ที่แล้วก็เอาข้าวสารลงไปผัด ผัดคลุกเคล้าพอให้ข้าวสารขึ้นเงาและดูว่าคลุกน้ำมันทั่วกันก็พอ เทน้ำลงไปให้ท่วมข้าว ใส่ซุปไก่ก้อนคนอร์สูตรไม่ใส่ผงชูรสลงไปหนึ่งก้อน
5. ใส่รากผักชี,ขิงหั่นฝอย
6. ปิดฝาตั้งทิ้งไว้ ต้องคอยเปิดดูข้าวต้มว่าข้าวบานรึยัง เช็คดูว่าน้ำแห้งไปรึเปล่า คอยเติมน้ำด้วย
7. พอข้าวบานได้ที่แล้วก็ใส่กุ้งที่เราหมักไว้ตอนแรกลงไปเลย
8. พอกุ้งสุกก็ยกลง ใส่ผักชีตามลงไปเลยค่ะ กลิ่นจะได้หอมๆ แล้วก็ปรุงรสตามชอบ

แกงจืดรวมมิตร



Ingredients:

แครอท ๑/๔ ถ้วย
หอมหัวใหญ่ ๑/๔ ถ้วย
มะระแม้ว ๑/๔ ถ้วย
ตำลึงหวาน ๑/๔ ถ้วย
ผักกาดหางหงส์ ๑/๔ ถ้วย
สาหร่ายวากาเมะหรือสาหร่ายคอมบุ ๑ ชิ้นเล็ก
ซีอิ๊วขาว ๑-๒ ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า ๒-๓ ถ้วย
เกลือทะเลเล็กน้อย



Preparation:

หั่นผักต่างๆ เป็นชิ้นเล็ก แช่สาหร่ายในน้ำพอนิ่ม หั่นเป็นชิ้นเล็กต้มรวมกับน้ำจนเดือด ใส่ผักต่างๆ ที่เตรียมไว้ทั้งหมด ใส่เกลือ ต้มไฟอ่อนจนผักสุก ใส่ซีอิ๊วขาว ชิมรสตามชอบ